Estimated reading time: 3 minutes

Outsourcing งานส่วนไหนได้บ้าง?

วงการธุรกิจในปัจจุบันที่มีการแข่งขันที่สูงขึ้นอย่างมากและทุกอย่างไม่ได้หยุดอยู่กับที่ การที่จะให้เจ้าของธุรกิจหรือผู้บริหารสามารถเชี่ยวชาญในทุกๆ ด้านเพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้าดูจะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก การพยายามทำทุกอย่างด้วยตัวเองไม่เพียงแต่จะทำให้เหนื่อยล้าสุญเสียพลังงานปล่าว และยังอาจทำให้พลาดโอกาสในการโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญที่สุด นั่นคือ “ธุรกิจหลัก” (Core Business) ของคุณ การ Outsourcing จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่ SME ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ สามารถเข้าถึงความเชี่ยวชาญระดับสูง เพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นลงได้เหลือเชื่อ การเลือกใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญนอกองค์กรไม่ใช่แค่การลดภาระ แต่เป็นการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน หลายคนอาจยังสงสัยว่า แล้วงานส่วนไหนล่ะที่สามารถส่งมอบให้คนภายนอกทำได้บ้าง? บทความนี้เราจะพาคุณไปเจาะลึกถึง 7 แผนกยอดฮิตที่บริษัทส่วนใหญ่มั่นใจและเลือกใช้บริการจากผู้ให้บริการภายนอกมากที่สุด เพื่อเป็นแนวทางให้คุณได้พิจารณาว่าธุรกิจของคุณจะก้าวไปอีกขั้นด้วยวิธีนี้ได้ยังไง?

ทำไมการใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญนอกองค์กรถึงเป็นทางเลือกที่ฉลาด?

ก่อนที่จะไปดูลิสต์แผนกต่างๆ เรามาทำความเข้าใจถึงประโยชน์ที่ธุรกิจจะได้รับจากการมอบหมายงานให้พาร์ทเนอร์ภายนอกกันก่อน เพื่อให้เห็นภาพว่าทำไมแนวทางนี้ถึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

• ควบคุมต้นทุนได้ดีเยี่ยม: คุณสามารถเปลี่ยนค่าใช้จ่ายคงที่ (Fixed Cost) อย่างเงินเดือนพนักงานประจำ สวัสดิการ โบนัส และค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม ให้กลายเป็นค่าใช้จ่ายผันแปร (Variable Cost) ที่จ่ายตามขอบเขตงานหรือตามโปรเจกต์ ทำให้บริหารกระแสเงินสดได้ง่ายขึ้นมาก
• เข้าถึงทีมงานผู้เชี่ยวชาญทันที: แทนที่จะต้องใช้เวลาและงบประมาณมหาศาลในการสรรหาและสร้างทีมผู้เชี่ยวชาญขึ้นมาเอง คุณสามารถเข้าถึงทีมงานที่มีประสบการณ์ ความรู้ และเครื่องมือที่ทันสมัยพร้อมทำงานได้ในทันที
• มีเวลาโฟกัสกับธุรกิจหลัก: เมื่อคุณมอบหมายงานที่ไม่ใช่หัวใจหลักของธุรกิจ (Non-core functions) ให้มืออาชีพดูแล คุณและทีมงานหลักก็จะมีเวลาและพลังงานไปทุ่มเทให้กับการพัฒนาสินค้า, การบริการลูกค้า และการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างรายได้และขับเคลื่อนการเติบโต
• เพิ่มความยืดหยุ่นและคล่องตัว: ธุรกิจของคุณสามารถปรับขนาดทีมงานได้ตามสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ในช่วงที่มีโปรเจกต์ใหญ่ก็สามารถเพิ่มกำลังคนได้ และเมื่อจบโปรเจกต์ก็ลดขนาดลงได้โดยไม่มีภาระผูกพันใดๆ ในระยะยาว

เปิดลิสต์! 7 แผนกยอดฮิตที่ธุรกิจตัดสินใจใช้บริการ Outsource มากที่สุด

เมื่อเข้าใจถึงประโยชน์หลักแล้ว ทีนี้เราจะมาดูกันว่า 7 แผนกที่บริษัทต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย นิยมมอบหมายงานให้ผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกเข้ามาดูแลมีอะไรบ้าง

1. แผนกไอทีและงานซัพพอร์ต (IT & Support)

นี่ถือว่าเป็นแผนกที่ถูกจ้างงานผู้ให้บริการภายนอกมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ อย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยเหตุผลที่ว่าเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็วและมีความซับซ้อนสูงมาก

• งานที่นิยมมอบหมาย: บริการ IT Helpdesk ช่วยเหลือพนักงาน, การดูแลรักษาระบบเครือข่ายและเซิร์ฟเวอร์, การบริหารจัดการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity), การสำรองและกู้คืนข้อมูล (Backup & Disaster Recovery) และการบริหารจัดการระบบคลาวด์ (Cloud Management)
• ทำไมถึงเป็นที่นิยม: การจ้างทีมไอทีที่มีความเชี่ยวชาญครบทุกด้าน (Network, Security, System) นั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากกว่างานทั่วไป การใช้บริการจากบริษัท Outsource ทำให้ SME สามารถเข้าถึงทีมผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดได้ในราคาที่สมเหตุสมผล อีกทั้งยังได้รับการดูแลตลอด 24 ชั่วโมง (หากรองรับ) และเข้าถึงเทคโนโลยีป้องกันภัยคุกคามใหม่ล่าสุดที่บริษัทผู้ให้บริการลงทุนไว้อยู่แล้ว
• เหมาะกับใคร: ธุรกิจทุกขนาด โดยเฉพาะธุรกิจ SME ที่ไม่มีงบประมาณเพียงพอในการจัดตั้งแผนกไอทีเต็มรูปแบบ

2. แผนกการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing)

ในยุคที่ลูกค้าอยู่บนโลกออนไลน์ การตลาดดิจิทัลเลยเป็นสิ่งจำเป็น แต่ก็เป็นศาสตร์ที่กว้างและมีรายละเอียดเยอะมาก การทำการตลาดด้วยตัวเองโดยขาดความเข้าใจอาจเป็นการเผาเงินทิ้งโดยเปล่าประโยชน์

• งานที่นิยมมอบหมาย: การทำ SEO (Search Engine Optimization), การยิงโฆษณา Google Ads / Facebook Ads / TikTok Ads, การบริหารจัดการโซเชียลมีเดีย, การสร้างคอนเทนต์ (บทความ, วิดีโอ) และการทำ Email Marketing
• ทำไมถึงเป็นที่นิยม: เอเจนซี่การตลาดดิจิทัลมีทีมงานที่เชี่ยวชาญในแต่ละแขนงโดยเฉพาะ มีความเข้าใจในอัลกอริทึมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และมีเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลราคาแพงที่ช่วยให้การวางแผนแคมเปญมีประสิทธิภาพและวัดผลได้ชัดเจน การ Outsource งานส่วนนี้จึงมักให้ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ที่คุ้มค่ากว่า
• เหมาะกับใคร: ธุรกิจที่ต้องการสร้างแบรนด์และเพิ่มยอดขายออนไลน์ แต่ไม่มีทีมการตลาดภายใน หรือมีทีมแต่ต้องการผู้เชี่ยวชาญมาช่วยเสริมทัพ

3. แผนกบัญชีและการเงิน (Accounting & Finance)

ความถูกต้องและแม่นยำคือหัวใจของงานบัญชี การทำผิดพลาดไม่เพียงแต่จะสร้างปัญหาในการบริหารภายใน แต่ยังอาจผิดต่อกฎหมายสรรพากรได้

• งานที่นิยมมอบหมาย: การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย, การจัดทำและยื่นภาษี (ภ.พ.30, ภ.ง.ด. 50/51), การจัดการบัญชีเงินเดือน (Payroll) และการจัดทำงบการเงิน
• ทำไมถึงเป็นที่นิยม: สำนักงานบัญชีมีความเชี่ยวชาญด้านมาตรฐานบัญชีและกฎหมายภาษีโดยตรง ช่วยลดความเสี่ยงจากความผิดพลาดได้อย่างมาก และยังช่วยให้ผู้บริหารได้ข้อมูลทางการเงินที่ถูกต้องสำหรับนำไปใช้วางแผนกลยุทธ์ต่อไปได้ การใช้บริการ Outsource ด้านบัญชีจึงช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและเสถียรภาพทางการเงินให้แก่องค์กร
• เหมาะกับใคร: ธุรกิจทุกประเภท ตั้งแต่บุคคลธรรมดา, ร้านค้า และไปจนถึงบริษัทจำกัด

4. แผนกทรัพยากรบุคคล (Human Resources – HR)

งาน HR นั้นเรียกว่ามีหลากหลายมิติ ตั้งแต่งานเอกสารที่ซ้ำซ้อนไปจนถึงงานที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายแรงงาน

• งานที่นิยมมอบหมาย: การสรรหาและคัดเลือกบุคลากร (Recruitment), การคำนวณเงินเดือนและนำส่งประกันสังคม, การจัดการด้านเอกสารสัญญาจ้าง และการจัดอบรมพัฒนาพนักงาน
• ทำไมถึงเป็นที่นิยม: ช่วยลดภาระงานธุรการที่กินเวลาของผู้บริหารหรือฝ่ายบุคคล ทำให้มีเวลาไปโฟกัสกับการพัฒนาวัฒนธรรมองค์กรและดูแลพนักงานในเชิงกลยุทธ์ได้มากขึ้น อีกทั้งบริษัทจัดหางานยังมักมีฐานข้อมูลผู้สมัครที่ใหญ่กว่าและมีกระบวนการคัดกรองที่มีประสิทธิภาพ
• เหมาะกับใคร: บริษัทที่กำลังเติบโตและต้องการขยายทีมอย่างรวดเร็ว หรือบริษัทที่ต้องการลดภาระงานเอกสารของฝ่ายบุคคล

5. แผนกธุรการและงานเอกสาร (Administrative Tasks)

งานธุรการแม้จะดูเป็นงานเล็กน้อย แต่ก็เป็นงานที่จำเป็นและกินเวลาของผู้บริหารและพนักงานอย่างมากในทุกๆ วัน

• งานที่นิยมมอบหมาย: การคีย์ข้อมูล (Data Entry), การจัดการและจัดเก็บเอกสาร, งานเลขานุการส่วนตัวแบบออนไลน์ (Virtual Assistant – VA) ที่ช่วยจัดการตารางนัดหมาย จองตั๋วเครื่องบิน หรือตอบอีเมลเบื้องต้น
• ทำไมถึงเป็นที่นิยม: เป็นวิธีที่คุ้มค่าในการปลดปล่อยเวลาอันมีค่าของผู้บริหาร การ Outsource งานส่วนนี้มีความยืดหยุ่นสูง สามารถจ้างเป็นรายชั่วโมงหรือรายโปรเจกต์ได้ ช่วยให้ทีมงานหลักได้ทำงานที่สร้างมูลค่าสูงขึ้น
• เหมาะกับใคร: ผู้บริหารระดับสูง, เจ้าของกิจการคนเดียว, และทีมขนาดเล็กที่ต้องการผู้ช่วยโดยไม่ต้องจ้างพนักงานประจำ

6. แผนกบริการลูกค้า (Customer Service)

การสร้างความประทับใจและการแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าอย่างรวดเร็วคือปัจจัยสำคัญในการรักษาฐานลูกค้าเก่าและสร้างชื่อเสียงให้แบรนด์

• งานที่นิยมมอบหมาย: ทีม Call Center รับสาย-โทรออก, ทีมตอบ Live Chat และข้อความทางโซเชียลมีเดีย และทีมตอบอีเมลลูกค้า
• ทำไมถึงเป็นที่นิยม: บริษัทที่ให้บริการด้านนี้โดยเฉพาะจะมีทีมงานที่ผ่านการฝึกอบรมด้านการสื่อสารและรับมือกับลูกค้ามาอย่างดี มีระบบการจัดการเคสที่เป็นมาตรฐาน และสามารถให้บริการได้ครอบคลุมหลายช่วงเวลา หรือแม้กระทั่ง 24 ชั่วโมง ซึ่งยากต่อการจัดทีมภายใน
• เหมาะกับใคร: ธุรกิจ E-commerce, บริษัทซอฟต์แวร์, และธุรกิจที่มีการติดต่อกับลูกค้าจำนวนมากในแต่ละวัน

7. แผนกออกแบบและสร้างสรรค์ (Creative & Design)

งานออกแบบที่มีคุณภาพสามารถยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างมหาศาล แต่การจ้างนักออกแบบหรือทีมครีเอทีฟฝีมือดีมาประจำการนั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก

• งานที่นิยมมอบหมาย: การออกแบบกราฟิกสำหรับโซเชียลมีเดีย, การออกแบบโลโก้และอัตลักษณ์องค์กร (CI), การตัดต่อวิดีโอ และการออกแบบเว็บไซต์
• ทำไมถึงเป็นที่นิยม: เปิดโอกาสให้ธุรกิจได้ทำงานกับนักออกแบบหรือครีเอทีฟที่มีความสามารถหลากหลายสไตล์ โดยไม่จำเป็นต้องผูกมัดด้วยการจ้างประจำ สามารถเลือกใช้บริการเป็นโปรเจกต์ๆ ไป ทำให้ควบคุมงบประมาณได้ง่ายและได้ผลงานที่มีคุณภาพสูง
• เหมาะกับใคร: ธุรกิจทุกขนาดที่ต้องการสื่อสร้างสรรค์คุณภาพสูง แต่ไม่มีปริมาณงานมากพอที่จะจ้างทีมประจำ

สรุปบทความ: ก้าวต่อไปของธุรกิจคุณ

จากทั้ง 7 แผนกที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่ากลยุทธ์การจ้างงานภายนอกนั้นครอบคลุมการทำงานในหลากหลายมิติ การตัดสินใจเลือก Outsourcing ไม่ใช่การยอมรับว่าองค์กรของคุณขาดความสามารถ แต่คือการยอมรับความจริงทางธุรกิจและเลือกเดินหมากอย่างชาญฉลาด เพื่อนำทรัพยากรที่มีค่าที่สุดอย่าง “เวลา” และ “บุคลากร” ไปใช้ในจุดที่สร้างความได้เปรียบสูงสุด การเลือกพาร์ทเนอร์ที่ใช่และไว้ใจได้ จะเป็นเหมือนการติดเทอร์โบให้ธุรกิจของคุณพุ่งทะยานไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

หากคุณคือเจ้าของธุรกิจที่กำลังมองหาหนทางในการลดภาระ เพิ่มประสิทธิภาพ และต้องการที่ปรึกษามืออาชีพเพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตไปอีกระดับ AREE คือคำตอบของคุณ เราคือผู้ให้บริการ Outsource ที่มีความเชี่ยวชาญและเข้าใจความต้องการของธุรกิจไทยอย่างลึกซึ้ง ติดต่อ AREE วันนี้ เพื่อรับคำปรึกษาฟรี และมาค้นพบว่าเราจะช่วยปลดล็อกศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในธุรกิจของคุณได้อย่างไร