Checklist! Work Permit Visa Thailand สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเข้าทำงานในไทย

การขอ Work Permit Visa Thailand และ วีซ่าธุรกิจ ไทย (Business Visa) เต็มไปด้วยความท้าทายสำหรับหลายองค์กร ไม่ว่าจะเป็นความยุ่งยากด้านเอกสาร ข้อจำกัดทางกฎหมายที่ซับซ้อน หรือข้อกำหนดที่บริษัทต้องมีนิติบุคคลในประเทศก่อน การดำเนินการที่ผิดพลาดอาจนำไปสู่ความเสี่ยงในการผิดกฎหมายแรงงานได้ ดังนั้น การทำความเข้าใจขั้นตอน จึงเป็นหัวใจสำคัญที่ทั้งฝ่ายธุรกิจและฝ่ายบุคคล (HR) ต้องวางแผนอย่างรัดกุม

วีซ่าประเภท Non-Immigrant B คืออะไร ?

วีซ่า Non-Immigrant B หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า Non-B Visa คือวีซ่าสำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศไทยเพื่อวัตถุประสงค์ในการ ทำงาน, ประชุม หรือติดต่อธุรกิจ โดยเป็นส่วนหนึ่งของวีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราว (Non-Immigrant Visa) ซึ่งผู้ที่ต้องการทำงานในประเทศไทยจะต้องได้รับใบอนุญาตทำงานด้วย ดังนั้นทุกบริษัทที่ต้องการนำคนต่างชาติเข้ามาทำงาน ต้องทำความเข้าใจวีซ่าตัวนี้นั่นเอง

Checklists ขั้นตอนและปัญหาที่ทุกบริษัทควรรู้

การนำพนักงานต่างชาติเข้ามาทำงานในไทย มีกระบวนการที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยอุปสรรคที่ฝ่าย HR และผู้ประกอบการต้องเตรียมรับมือ นี่คือสิ่งที่ทุกบริษัทต้องเจอ

1. ต้องมีนิติบุคคลในไทยก่อน

นี่คืออุปสรรคด่านแรกและสำคัญที่สุด บริษัทต่างชาติหรือชาวต่างชาติไม่สามารถ ขอ Work Permit ให้กับพนักงานได้โดยตรงตามกฎหมายไทย บริษัทจำเป็นต้องดำเนินการจัดตั้งนิติบุคคลในประเทศไทย  หรือได้รับการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ให้เรียบร้อยก่อน โดยกระบวนการนี้ใช้เวลานานมาก ทั่วไปอยู่ที่ 3-6 เดือน หรืออาจนานกว่านั้น ทำให้แผนการจ้างงานและการเริ่มโปรเจกต์ล่าช้าอย่างมาก ไม่สามารถจ้างงานได้ทันทีที่ต้องการ

2. ขั้นตอนเอกสารที่ซับซ้อน

ความซับซ้อนของเอกสารเป็นปัญหาคลาสสิก  ขอวีซ่า Non-B ใช้เอกสาร อะไรบ้าง? เป็นเพียงจุดเริ่มต้น เพราะรายการ เอกสาร ขอวีซ่า ทำงาน ในไทย นั้นมีจำนวนมากและต้องถูกต้อง 100% นอกจากนี้เอกสารต้องถูกแปลเป็นภาษาไทยและรับรองโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากขาดเอกสารเพียงชิ้นเดียว หรือกรอกข้อมูลผิดพลาด อาจทำให้กระบวนการทั้งหมดหยุดชะงัก

3. ระยะเวลารอคอยและความไม่แน่นอน

หลังจากยื่นเอกสารที่คิดว่าครบถ้วนแล้ว กระบวนการยังไม่จบ กระบวนการขอ วีซ่า Non-B และการขอใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ไม่ได้เกิดขึ้นทันที โดยทั่วไปกินเวลาหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือนในการรออนุมัติ ในระหว่างนี้บริษัทและพนักงานจะตกอยู่ในสภาวะความไม่แน่นอนสูง และมีความเสี่ยงที่จะถูกปฏิเสธ หากเจ้าหน้าที่พิจารณาว่าเอกสารไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

4. ภาระงานธุรการและการปฏิบัติตามกฎหมาย

การได้มาซึ่ง work permit visa thailand เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ภาระงานที่แท้จริงคือการดูแล “หลังบ้าน” ให้ถูกต้องตามกฎหมายตลอดระยะเวลาจ้างงาน บริษัทต้องรับผิดชอบในการยื่นรายงานต่างๆ การต่ออายุวีซ่าและใบอนุญาตทำงานก่อนหมดอายุ และการควบคุม Compliance อื่นๆ ตามที่กฎหมายไทยกำหนด หากมีการผิดพลาด บริษัทอาจเสี่ยงต่อการโดนค่าปรับ พนักงานอาจถูก Blacklist หรือส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในไทย

5. การอัปเดตกฎหมายที่เปลี่ยนแปลงบ่อย

กฎระเบียบ (Regulations) และนโยบาย (Policy) ที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานต่างชาติของกรมการจัดหางานและสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มีการปรับเปลี่ยนและอัปเดตอยู่ตลอดเวลา เพราะสิ่งที่เคยทำได้เมื่อปีที่แล้ว อาจใช้ไม่ได้ผลในปีนี้ บริษัทต้องมีทีมงานที่ติดตามกฎระเบียบเหล่านี้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่ากระบวนการจ้างงานยังคงถูกต้องตามกฎหมายล่าสุด การตามไม่ทันอาจนำไปสู่การทำผิดกฎโดยไม่ได้ตั้งใจ

เปรียบเทียบดำเนินการเอง vs ใช้บริการ EOR

เมื่อเห็นความท้าทายทั้งหมดแล้ว หลายบริษัทจึงเริ่มมองหาทางเลือกใหม่ นี่คือการเปรียบเทียบที่ชัดเจนระหว่างการลุยทำเอง กับการใช้ผู้เชี่ยวชาญอย่าง EOR

บริษัทจะต้องเริ่มต้นด้วยการจัดตั้งนิติบุคคลในประเทศไทยซึ่งกินเวลานานหลายเดือน ต้องเผชิญกับขั้นตอนเอกสารที่ซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นสัญญาเช่าออฟฟิศ การรับรองเอกสารต่างๆ รวมถึงการประสานงานกับหน่วยงานราชการหลายแห่งด้วยตนเอง ความเสี่ยงเรื่องกฎหมายและค่าปรับก็สูง เพราะหากขั้นตอนผิดพลาดหรือมีข้อบกพร่องในการยื่นเอกสาร อาจส่งผลลบต่อธุรกิจ นอกจากนั้นฝ่าย HR หรือแอดมินจะต้องแบกรับภาระงานเอกสารและการติดตาม Compliance เองทั้งหมด ทำให้เสียเวลาในการวางกลยุทธ์ธุรกิจและขยายตลาด

ในทางกลับกันหากบริษัทเลือกใช้บริการ EOR (หรือ Employer of Record Thailand) จะช่วยตัดขั้นตอนยุ่งยากที่ต้องจัดตั้งบริษัททิ้งไปได้ทันที หลายคนอาจสงสัยว่า employerคืออะไร? อธิบายง่ายๆ EOR คือ “นายจ้างตัวแทน” (Legal Employer) ที่มีความเชี่ยวชาญและมีนิติบุคคลถูกต้องตามกฎหมายในไทยอยู่แล้ว EOR จะรับผิดชอบการจ้างงานพนักงานต่างชาติแทนบริษัทของคุณ ทำให้สามารถเริ่มจ้างงานและขึ้นทะเบียนพนักงานได้ทันทีในเวลาเพียงไม่กี่วัน

ทุกกระบวนการตั้งแต่เตรียมเอกสาร การยื่นกับรัฐ จนถึงการต่ออายุและจัดการสวัสดิการ จะถูกดูแลแบบเบ็ดเสร็จโดยทีมงานมืออาชีพ บริการนี้บางครั้งอาจเรียกว่า Professional Employer Organization โดย EOR จะรับผิดชอบเรื่อง Compliance และความถูกต้องด้านกฎหมายแรงงาน 100% ทำให้บริษัทลดความเสี่ยงถูกปรับหรือถูก Blacklist ได้อย่างมั่นใจ สนับสนุนการเข้าสู่ตลาดและขยายทีมงานได้รวดเร็ว โดยฝ่ายธุรกิจสามารถโฟกัสที่การเติบโตและบริหารองค์กรได้เต็มที่โดยไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับงานแอดมินเลย

ข้อดีของการใช้ EOR แทนการดำเนินการเอง

การเลือกใช้บริการ Employer of Record Thailand มีข้อได้เปรียบที่ชัดเจนซึ่งช่วยแก้ปัญหาหลักๆ ของการจ้างงานต่างชาติได้โดยตรง ดังนี้

1. ไม่ต้องตั้งบริษัท หรือเสียเวลานาน

นี่คือข้อได้เปรียบที่ใหญ่ที่สุด บริการ EOR ช่วยให้บริษัทสามารถข้ามขั้นตอนการจัดตั้งนิติบุคคลในไทยที่อาจใช้เวลานาน 3-6 เดือนไปได้เลย เนื่องจาก EOR มีนิติบุคคลที่ถูกต้องตามกฎหมายพร้อมจ้างงานพนักงานต่างชาติแทนบริษัทของคุณได้ทันที ทำให้ทีมของคุณพร้อมเริ่มงานได้ภายในไม่กี่วัน

2. จบปัญหา Compliance 100%

การปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานไทยและกฎเกณฑ์ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงบ่อย EOR ทำหน้าที่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจลึกซึ้งเรื่องการออก Work Permit & Visa จึงช่วยรับประกันว่าทุกขั้นตอนตั้งแต่การจ้างงาน การจ่ายเงินเดือน จนถึงการหักภาษี จะถูกต้องตามกฎหมาย 100%

3. Paperwork ทุกอย่าง One-Stop

EOR ทำหน้าที่เสมือนแผนก HR ที่ดูแลงานเอกสารราชการทั้งหมดแบบ One-Stop Service จัดการความวุ่นวายตั้งแต่การเตรียม เอกสาร ขอวีซ่า ทำงาน ในไทย ที่ซับซ้อน การประสานงานยื่นเรื่องกับภาครัฐ ไปจนถึงการจัดการต่ออายุวีซ่าและใบอนุญาตทำงานประจำปี ช่วยลดภาระงานเอกสารของบริษัทคุณไปได้อย่างสิ้นเชิง

4. ลดความเสี่ยงและความไม่แน่นอน

ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยในการเตรียมเอกสารอาจนำไปสู่การถูกปฏิเสธ วีซ่า Non-B ขอ Work Permit หรือใบอนุญาตทำงาน การใช้ EOR ซึ่งมีทีมงานมืออาชีพช่วยลดความเสี่ยงและความไม่แน่นอนนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พวกเขาจะตรวจสอบความครบถ้วนสมบูรณ์ของเอกสารทั้งหมดก่อนยื่น ทำให้มั่นใจได้ว่ากระบวนการจะผ่านการอนุมัติอย่างราบรื่น

5. ประหยัดเวลาฝ่าย HR/Admin

แทนที่จะให้ฝ่าย HR หรือ Admin ต้องเสียเวลาไปกับการติดตามกฎหมายและลุยงานเอกสารภาครัฐ การใช้บริการ EOR (หรือที่บางครั้งเรียกว่า Professional Employer Organization) จะช่วยปลดล็อกภาระงานส่วนนี้ทั้งหมด ทำให้ทีมงานหลักของบริษัทสามารถโฟกัสไปที่การดำเนินธุรกิจหลัก (Core Business) และการขยายตลาดได้อย่างเต็มที่

อยากให้การจ้างงานต่างชาติในไทยเป็นเรื่องง่าย เลือกใช้ EOR ครบจบทุกจุดเสี่ยงและลดต้นทุน ทีมของคุณพร้อมเริ่มงานใน 48 ชั่วโมง! สำหรับองค์กรที่มองหาโซลูชันที่เชื่อถือได้และรวดเร็ว AREE Technology Solution คือผู้เชี่ยวชาญด้าน Employer of Record Thailand ที่พร้อมช่วยให้การขอ work permit visa thailand ของคุณราบรื่น ไร้กังวล และถูกต้องตามกฎหมาย 100%


FAQ คำถามที่พบบ่อย

Visa คือเอกสารที่อนุญาตให้เข้าประเทศ ส่วน Work Permit คือใบอนุญาตให้ทำงาน โดยทั่วไปแล้ว ชาวต่างชาติต้องมีทั้งสองอย่างเพื่อทำงานในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย Artralux
Accordion การขอใบอนุญาตทำงานในประเทศไทยทำได้โดยการเตรียมเอกสารที่จำเป็น เช่น หนังสือเดินทาง, รูปถ่าย, สัญญาจ้าง, หนังสือรับรองจากบริษัท และเอกสารอื่นๆ ให้ครบถ้วน จากนั้นยื่นคำขอพร้อมเอกสารที่สำนักงานจัดหางาน หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และรอการพิจารณาจากเจ้าหน้าที่และนายทะเบียนจนได้รับอนุมัติ เมื่อได้รับอนุมัติแล้วให้ชำระค่าธรรมเนียมและลงนามในใบอนุญาตทำงาน
ใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้ ตท.๑๑ หรือ WP. 11 เล่มสีน้ำเงิน ตท.๑๕ หรือ WP. 15 แผ่นสีเหลือง ตท.๑๑ หรือ WP. 11 เล่มสีส้ม
วีซ่าประเภท Non-Immigrant ประเภท “B” ออกให้สำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการทำงานกับบริษัทที่ขึ้นกับ BOI. วีซ่าชั่วคราวประเภท Non –Immigrant รหัส “IB”(วีซ่าเพื่อการลงทุนและธุรกิจ) สำหรับชาวต่างชาติที่ทำงานในโครงการลงทุนที่อยู่ภายใต้การอุปถัมภ์ของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)